​Evergrow สมาร์ทฟาร์มยุดดิจิตอล

Evergrow  สมาร์ทฟาร์มยุดดิจิตอล

      เพียงแค่มีมือถือสมาร์ตโฟนสักเครื่องการควบคุมอากาศและน้ำด้วยระบบคลาวด์ก็เป็นเรื่องง่าย เพราะระบบจะถูกสั่งการให้ทุกอย่างทำงานโดยอัตโนมัติ ทั้งรดน้ำ พรวนดิน ปรับระดับแสงแดด แถมยังสามารถปรับสูตรการ เพาะปลูกได้ตามต้องการ เกษตรกรยุคใหม่ จึงสามารถดูแลผลผลิตได้อย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพ แถมยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย

       วันนี้ธุรกิจเกษตรกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อ Smart Farm คือทางเลือกใหม่ในยุค 4.0 และนี้ตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว Evergrow แพลตฟอร์มการทำธุรกิจการเกษตรรูปแบบใหม่ โดยผสมผสานกับเทคโนโลยียุคดิจิตอล สร้างช่องทางใหม่ให้คนที่สนใจทำธุรกิจเกษตรแบบอัตโนมัติในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยไม่จำเป็นต้องมีเรือกสวนไร่นา แถมไม่ต้องหวั่นกับสภาพฟ้าฝนไม่เป็นใจ ภายใต้แนวคิดการทำเกษตรแบบไร้ข้อจำกัด Grow anything ,anyware ปลูกทุกอย่างได้ทุกที่ ทุกฤดูกาล ตามความต้องการ ซึ่งเจ้าของแนวคิดนี้คือคนรุ่นใหม่อย่าง ภุชงค์ วงษ์ทองดี ในฐานะผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท Unixcon จำกัด

ออฟฟิศบนตึกสูงย่านรังสิตของ Evergrow ถูกดัดแปลงให้เป็นโชว์รูม และเทรนนิ่งเซ็นเตอร์ Smart farm ในร่มบนพื้นที่กะทัดรัดสำหรับลูกค้าที่สนใจเข้ามาศึกษาเยี่ยมชม  ฟาร์มเกษตรติดแอร์ในห้องกระจกที่นี่ควบคุมการทำงานทุกอย่างด้วยระบบอัตโนมัติ โดยใช้การควบคุมและวิเคราะห์ดูแลการผลิตผ่านทางระบบ Cloud Farming ซึ่งออกแบบให้อุปกรณ์ทั้งหมดสามารถทำงานเชื่อมต่อกันและรู้ว่าจะดูแลพืชเหล่านั้นอย่างไรได้ด้วยตัวเอง ชนิดที่เรียกว่าไม่ต้องง้อคนงานมาดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ย

      จากพื้นฐานที่มีความถนัดด้านซอฟท์แวร์ ทำให้ภุชงค์มองเห็นช่องทางบุกเบิกธุรกิจฟาร์มรูปแบบใหม่ในเมืองไทย โดยพัฒนา Evergrow ที่ครบเครื่องทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ผสานเข้ากับเทคโนโลยีดิจิตอลที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งการได้ด้วยปลายนิ้ว ผ่านทางเว็บแอพพลิเคชั่นและสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังสามารถกำหนดโปรแกรมการเลี้ยงดูได้เอง หรือ เลือกโปรแกรมการเลี้ยงดูอื่นๆที่มีอยู่บนแอพฯ ได้โดยง่าย และยังสามารถตรวจสอบสภาพอากาศ ปริมาณปุ๋ยหรือทรัพยากรอื่นๆ จากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งและเชื่อมต่ออยู่ ได้แบบเรียลไทม์ พร้อมระบบแจ้งเตือนกรณีเกิดปัญหาขัดข้อง เช่น ไฟฟ้าดับ อินเตอร์เน็ตเสีย

        ภุชงค์ เล่าว่า แนวคิดในการทำธุรกิจของ Evergrow จึงไม่ใช่การขาย“สินค้า” แต่ปรับบิสซิเนสโมเดลใหม่มาเป็นการขายบริการ และโซลูชั่นในการผลิตอาหารปลอดภัย ภายใต้โมเดลการทำฟาร์มยุคใหม่ ในแบบ Full Scale ตอบโจทย์ในทุกความต้องการของลูกค้าในรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่การขายอุปกรณ์ติดตั้ง บริการที่ปรึกษาในการจัดการฟาร์มและวางระบบให้ธุรกิจฟาร์มขนาดใหญ่  รวมถึงเกษตรกรรายเล็กในเมืองที่สนใจหันมาปลูกพืชผักที่มีราคาที่ต้องปลูกในระบบปิด การปลูกพืชเป็นยา หรือพืชที่มีความเซ้นส์ซิทีฟสูง เช่น กระบองเพชรพันธุ์หายากที่ราคาสูงมาก  ในขณะที่ลูกค้าคนทั่วไปที่ไม่เคยทำด้านการเกษตรมาก่อน Evergrow ก็มีบริการเทรนนิ่งที่สอนให้ทำจนเป็นอาชีพได้ โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องซื้อฮาร์ดแวร์จากเรา แต่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้เองโดยเชื่อมต่อการทำงานผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยตัวคอนโทรเลอร์ซึ่งเตรียมเปิดให้บริการในรูปแบบ Open source ให้คนทั่วไปเข้ามาใช้งานแอพพลิเคชั่นได้ฟรี

      แต่ที่เหนือชั้นไปกว่านั้น คือ โมเดลธุรกิจของ Evergrow ยังครอบคลุมไปถึงการทำตลาดปลายทาง ด้วยการดีลกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ นำเสนอประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยนวัตกรรมการยกแปลงผักของ Evergrow เข้าไปอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเด็ดผักสดๆจากต้นที่ถูกใจใส่ถุงกลับบ้านได้ทันที ซึ่งภุชงค์เผยว่ากำลังอยู่ระหว่างเตรียมทำ MOU ร่วมกับพาร์ทเนอร์ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับไฮเอนด์ในเมืองไทย

      นอกจากนี้ โมเดลดังกล่าวยังต่อยอดไปสู่การทำธุรกิจเกษตรแนวใหม่ในรูปแบบ Co-farming ที่เปิดให้ลูกค้าทั่วไปที่อยากลงทุนธุรกิจเกษตรแต่ไม่มีตลาด มาร่วมในลักษณะการให้เช่า โดย Evergrow รับหน้าที่ในการบริหารจัดการฟาร์มแทนลูกค้า

      กว่าจะยืนหยัดก้าวมาถึงวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ภุชงค์ต้องผ่านการลองถูกลองผิดปรับบิสซิเนสโมเดลมาแล้วหลายครั้ง ผ่านช่วงเวลาทดสอบใจว่าจะหยุดเดินหรือไปต่อ ซึ่งในที่สุดด้วยความเชื่อมั่นใน Passion ความฝันที่มี และความอดทนจึงทำให้มีแรงที่จะคิดหาทางแก้ปัญหาและก้าวฝ่าข้ามอุปสรรค

อ้างอิง

https://www.clpe.co.th/single-post/2017/09/05/4-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88

http://www.smethailandclub.com/entrepreneur-1705-id.html